Whisper of The Heart: วันที่หัวใจจะเป็นสีชมพู วันไหนกันนะ?

ฉากนี้ที่อยู่ในเพลง City Pop มาจากการ์ตูนเรื่องไหนกันนะ?

.

เคยสงสัยกันบ้างไหมครับ เวลาที่หาเพลงแนว City Pop ฟังก็จะต้องเจอฉากนี้เป็นภาพปกหรือไม่ก็ลูปกราฟิกอยู่ในคลิปตลอดเลย 

.

มันมาจากการ์ตูนเรื่องไหน?

แล้วทำไมต้องเรื่องนี้ด้วยนะ?

มาหาคำตอบไปด้วยกันนะครับ

.

เฉลยข้อแรกกันก่อนนะครับ ฉากนี้มาจากเรื่อง ‘Whisper of the Heart’ ภาพยนตร์อนิเมชั่นจาก Studio Ghibi สตูดิโอที่สร้างผลงานครองใจคนทั่วโลก

Whisper of the Heart เป็นเรื่องราวของ ‘ชิซึกุ สึกิชิมะ’ เด็กสาวที่รักในการเขียนและอ่านหนังสือ เธอมักจะชอบยืมหนังสือที่ห้องสมุดอยู่เป็นประจำ แต่สิ่งที่ทำให้เธอแปลกใจทุกครั้งที่ยืมหนังสือ คือทุกเล่มที่เธอหยิบยืมมาจะต้องมีชื่อ ของใครคนหนึ่งยืมหนังสือเล่มนั้นก่อนหน้าเธอเสมอ 

“เซย์จิ อามาซาวะ หมอนี่เป็นใครกันนะ” 

.

แล้ววันหนึ่งคำตอบก็มาถึงนางเอกของเรา เมื่อเธอได้เจอกับบังเอิญเจอแมวอ้วนน่ารักในรถไฟ ก่อนเธอจะตามมันไปจนเจอเข้ากับร้านขายของเก่าแห่งหนึ่ง และนั่นทำให้เธอได้เจอเข้ากับ ‘เซย์จิ’ คนนั้นนั่นเอง / ซึ่งชิซึกุก็มารู้ทีหลังอะเนอะ

ถึงจะเริ่มต้นด้วยความไม่ลงรอยกันเท่าไหร่ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ทั้งคู่ก็เริ่มสนิทกันมากขึ้น เซย์จิได้เล่าความฝันของเขาให้ชิซึกุฟังว่า เขามีความฝันอยากเป็นช่างทำไวโอลิน และเขาก็อยากไปเรียนต่อที่ประเทศอิตาลี

.

“เธอจะไม่เรียนม.ปลายเหรอ” ชิซึกุเอ่ยถาม

“พ่อกับแม่ก็ค้านหัวชนฝน มีแต่คุณตาที่อยู่ข้างฉัน” เซย์จิตอบด้วยเสียงที่หนักแน่น

.

“คงดีมากเลยเนอะ ที่รู้ว่าตัวเองอยากทำอะไร” 

“ฉันยังไม่รู้เลย ก็แค่อยู่ไปวันๆ”

ชิซึกุพูดด้วยสีหน้าที่สับสนเล็กน้อย

.

“สึกิชิมะ”

“ทำไมเหรอ”

“เธอน่ะ มีพรสวรรค์ในการแต่งกลอนนะ เพลงที่เธอร้องก่อนหน้านี้ ฉันก็ว่าเพราะดี”

“ไหนนายบอกว่าเพลงนั้นไม่ดียังไงล่ะ!”

“ฉันพูดแบบนั้นจริงดิ?”

“ใช่สิ!”

“…ขอบใจนะ ราตรีสวัสดิ์!”

ชิซึกุยิ้มกว้างให้กับเซย์จิ ก่อนจะโบกมืออำลาและวิ่งเข้าบ้านไป

และฉากพูดคุยของทั้งสองคนตรงนี้แหละ คือฉากที่เราได้เห็นในเพลง City Pop นั่นเองครับ

.

คำถามที่ค้างไว้อยู่อีกข้อคือ ทำไมการ์ตูนเรื่องนี้ถึงได้เป็นที่นิยมและหยิบมาใช้ในงานเพลง City Pop คำตอบอาจจะหลากหลาย แต่เอาจากที่ผมสรุปมาให้เองนะครับ

เหตุผลแรกคือภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1995 และปีนั้นเป็นปีที่โลกเข้าสู่ความเจริญขึ้นสุดในหลายเรื่อง ทั้งการเดินทาง การศึกษา เทคโนโลยี และความบันเทิงต่างๆ และเพลง City Pop ก็มีรากฐานมาจากในช่วงเวลาดังกล่าว ก็จึงไม่แปลกที่ Whisper of the Heart จะถูกหยิบมาใช้ในงานเพลงสไตล์นี้ครับ

อีกเหตุผลที่ผมคิดว่าน่าจะมีส่วนไม่น้อย คือการ์ตูนเรื่องนี้เป็นเรื่องความรักครั้งแรกและคำสัญญา ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ว่าจะยุคสมัยไหนก็เป็นเรื่องที่กระทบใจของคนอยู่เสมอ และยิ่งฉากนี้เป็นซีนที่ตัวละครเอกทั้งสองคน ต่างรับรู้ความฝันของกันและกัน และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็เริ่มเบ่งบาน 

รักแรกที่เกิดขึ้นมาในใจ ช่วงเวลาที่ทั้งอ่อนไหวและอ่อนหวานอย่างนี้ จึงเป็นฉากที่เหมาะสมที่สุดกับการหยิบมาเล่าในเพลงรักครับ

.

เซย์จิได้ให้คำสัญญากับชิซึกุว่าเมื่อเขาไปเรียนทำไวโอลินที่อิตาลีสำเร็จเมื่อไหร่ เขาจะกลับมาหาเธอ ส่วนชิซึกุก็รู้หัวใจตัวเองและค้นพบว่าเธออยากเป็นนักเขียน และเธอก็อยากประสบความสำเร็จเช่นกันกับเขา

แต่ทั้งคู่จะทำสำเร็จไหม และคำสัญญาของหนุ่มสาวจะสมหวังหรือเปล่า สามารถรับชมได้ทาง Netflix เลยนะครับ

.

ความจริงแล้ว ในการ์ตูนเรื่องนี้มีฉากที่ผมชอบและรักมากอยู่ไม่น้อย แต่หนึ่งในซีนที่ผมชอบที่สุด คือฉากที่ชิซึกุเล่าให้เซย์จิฟังว่า ตัวเองรู้สึกกลายเป็นคนไม่น่ารักเหมือนกับ ‘มูน’ แมวของเซย์จิไปแล้ว

“เธอไม่เหมือนมูนหรอก!”เซย์จิพูดเสียงดัง ก่อนจะลดเสียงลงและเขินหน้าแดง “…ก็เจ้านั่นน่ะ มันเหมือนลูกครึ่งปีศาจน่ะ”

ถึงตรงนี้ ไม่ใช่แค่เซย์จิที่เขินหน้าแดงคนเดียวแล้ว ชิซึกุก็หน้าแดงเหมือนกัน

.

และใช่ครับ ผมเองก็เหมือนกัน.